โรคอ้วน : การเหยียดรูปร่างในอินเดียเพิ่ม ขณะประชากรมีน้ำหนักตัวเกินปกติราว 135 ล้านคน

 

โรคอ้วนในอินเดีย เมื่อเร็วๆนี้ รัฐมนตรีคนหนึ่งในเมืองเกรละของประเทศอินเดียได้โพสต์เรื่องราวทางเฟซบุ๊กบอกเล่าประสบการณ์ที่เขาถูกลบหลู่ดูหมิ่นรูปร่าง ซึ่งกำลังคือปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในประเทศอินเดีย

วี ศิวานกุตตี รัฐมนตรีด้านการศึกษาของเมืองเกรละ เล่าว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาได้โพสต์ภาพที่ถ่ายกับนักเรียนกลุ่มหนึ่ง หลังจากนั้นมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กคนหนึ่งเข้าไปคอมเมนต์ว่า คุณควรจะลดท้องลงสักนิด

คนอ้วนในอินเดีย โรคอ้วน

โรคอ้วนในอินเดีย ศิวานากุตตี ส่งข้อความตอบกลับว่า การเหยียดรูปร่างคนอื่นเป็น “การกระทำที่น่ารังเกียจ”

“การเหยียดรูปร่างเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุด ไม่ว่าจะมีคำอธิบายอย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในทุกระดับชั้นของสังคมเรา มีพวกเราหลายคนตกเป็นเหยื่อการถูกเหยียดรูปร่างจนถึงขั้นที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ” เขาระบุ “เราต้องยุติการเหยียดรูปร่าง จงเป็นคนที่มีแนวคิดสมัยใหม่” ศิวานากุตตีกล่าวทิ้งท้าย

ศิวานากุตตี เล่าให้บีบีซีฟังว่า กรณีที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้ตระหนักว่าการเหยียดรูปร่างเป็นปัญหาที่อันตรายเพียงใด พร้อมชี้ว่า รัฐบาลระดับรัฐควรรณรงค์ให้เด็กนักเรียนและครูได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยบรรจุเป็นหลักสูตรการเรียนในสถาบันต่าง ๆ

ความเห็นของศิวานากุตตี บวกกับหนังบอลลีวูดเรื่องล่าสุดที่ชื่อ Double XL ได้จุดหลักสำคัญร้อนในสังคมประเทศอินเดียที่ผู้คนมักถือวิสาสะวิจารณ์รูปพรรณสัณฐานของคนอื่นโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของผู้ที่ถูกวิจารณ์

ภาพยนตร์ประเด็นนี้แสดงนำโดยสองศิลปินสาว ฮูมา กุเรษี แล้วก็โสนากษี สินหา ซึ่งเคยเล่าถึงประสบการณ์เป็นเหยื่อการเหยียดหยามรูปร่างมาแล้ว โดยสินหามักถูกรังแกทางโซเชียลมีเดียจาก เรื่อง น้ำหนัก ตัว ขณะที่กุเรษี เคยถูกนักวิจารณ์กล่าวว่า “เธอ น้ำหนักตัว เกินกว่า ที่จะรับบทวีรสตรีมา 5 กิโลกรัม”

ซาตรัม รามานี ผู้กำกับเรื่อง Double XL บอกกับบีบีซีว่า ภาพยนตร์ เรื่องนี้ มี เนื้อหา เกี่ยวกับ สาวเจ้า เนื้อ 2 คน ที่ พบว่า น้ำหนัก ตัว ของ พวกเธอ เป็น อุปสรรค ต่อ ความฝัน และ พยายาม หาวิธี ก้าวข้าม ปัญหานี้

รามานี เล่าว่า “ผม เคย เห็น คน ที่ เต็ม ไป ด้วย พรสวรรค์ เผชิญ การดูถูก เพราะ น้ำหนักตัว ของ พวก เขา นี่เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เลย”

นักวิจารณ์หลายๆคนชี้ว่า อุตสาหกรรมหนังบอลลีวูดคือส่วนหนึ่งที่สร้างความนิยมให้คนอินเดียเห็นว่าความอ้วนคือสิ่งน่าเกลียด แล้วก็ความผอมบางคือสิ่งสวยงาม

รามานี บอกว่า หนังเรื่อง Double XL ต้องการสื่อให้คนในสังคม “ยอมรับความงามของตัวเอง ไม่ว่าจะมีรูปร่าง ขนาด หรือสีผิวอะไร”

หากแม้ Double XL จะ ทำรายได้ ไม่ดี เท่า หนัง บอลลีวูด เรื่อง อื่นที่ย้ำการร้อง เล่น เต้นรำ แต่รามานีกล่าวว่าเขาดีอกดีใจที่สังคมกำลังเอ๋ยถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดหยามรูปร่าง ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เพียงแค่ที่ประเทศอินเดีย

นี่คือปัญหาที่ ฮาร์นิดห์ กอร์ นักกวีพลัสไซส์จำเป็นต้องเผชิญ แล้วก็เขียนเล่าเรื่องราวของเธอลงในคอลัมน์แล้วก็โซเชียลมีเดีย

กอร์กล่าวว่า การเหยียดหยามรูปร่างเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย

เพราะว่า คนอินเดียส่วนใหญ่ไม่เคยทราบขอบเขต แล้วก็ในครอบครัวของพวกเราทุกคนต่างวิจารณ์รูปพรรณสัณฐานของกันและกัน

เธอชี้ว่าหากแม้ปัญหานี้จะเกิดสังกัดคนทุกเพศ แต่เพศหญิงเป็นข้างที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะว่าเพศหญิงมักถูกตัดสินว่ามีคุณลักษณะเหมาะสำหรับการสมรสหรือเปล่า แล้วก็สาวอ้วนมักเป็นตัวเลือกท้ายๆในประเด็นนี้

กอร์ เล่าว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีสภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome หรือ PCOS) ตอนอายุ 12 ปี ทำให้เติบโตมากับการเช็ดกล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัว เพราะว่าสภาวะนี้ทำให้คนเจ็บมีน้ำหนักเพิ่ม รอบเดือนมาไม่ดีเหมือนปกติ แล้วก็มีปัญหาผมหล่น

นักกวีหญิงรายนี้กล่าวว่า หากแม้หลายคราวการเหยียดหยามรูปร่างจะเกิดจากเจตนาดีของคนภายในครอบครัวที่มีความกังวลในสุขภาพ แต่เธอพบว่าทัศนคติของมนุษย์ในประเด็นนี้ก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติด้วย เพราะว่าคนส่วนใหญ่มักเห็นว่าคนอ้วนมีนิสัยขี้เกียจและไม่มีวินัย ทำให้พวกเขาถูกขัดขวางในตลาดงาน

เธอยกตัวอย่างเพิ่มว่า

“ตอนที่ฉันไปโรงพยาบาลเพราะเป็นภูมิแพ้ แต่หมอกลับพูดว่าที่ฉันหายใจไม่ออกเพราะฉันอ้วนเกินไป และตอนที่ฉันข้อเท้าหัก หมอพูดว่าฉันคงจะกระดูกไม่หัก ถ้าน้ำหนักตัวไม่มากขนาดนี้”

พญ.จิตรา เสลวาน ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคต่อมไร้ท่อกล่าวว่า หมอ ไม่ได้รับการอบรมที่ดีเพียงพอเรื่องศิลปะการติดต่อสื่อสาร แล้วก็เมื่อเอ่ยถึงการเหยียดหยามรูปร่าง หมอหลายคนเห็นว่าแนวทางลักษณะนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยอุตสาหะลดหุ่น

เธอชี้ว่า การเหยียดหยามรูปร่างบางทีอาจทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงด้านสังคมแล้วก็ด้านจิตใจ เพราะว่าการถูกตำหนิเรื่องน้ำหนักตัวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นส่งผลต่อการเห็นคุณประโยชน์ในตัวเองแล้วก็สุขภาพเกี่ยวกับจิต ซึ่งบางทีอาจก่อให้เกิดปัญหา ความประพฤติการกินของกินไม่ดีเหมือนปกติ (eating disorder) แล้วก็ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกจากสังคม จนถึงแปลงเป็นคนเก็บตัว

พญ.เสลวาน กล่าวว่า การตำหนิผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินเป็นแนวทางที่ใช้ไม่ได้ผล แล้วก็อาจทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่กล้าอ้อนวอนจากหมออีก

เธอชี้ว่า สถานการณ์นี้บางทีอาจร้ายแรงขึ้น เพราะว่าตอนนี้อินเดียมีประชากรที่น้ำหนักตัวเกินหรือเป็นโรคอ้วนราว 135 ล้านคน ข้อมูลจากรัฐบาลแล้วก็องค์การอนามัยโลกระบุว่าจำนวนนี้จะมากขึ้นอีก โดยที่หมอหลายๆคนเตือนถึงวิกฤตโรคอ้วนที่จะทวีความรุนแรงขึ้นในประเทศอินเดีย

พญ.เสลวาน กล่าวว่า ปัญหาน้ำหนักตัวเกินไม่ได้เกิดจากการเลือกรับประทานอาหารไม่ถูกจำเป็นต้องเท่านั้น แต่สภาวะนี้มีความซับซ้อน เพราะว่าบางทีอาจเกิดจากหลายต้นสายปลายเหตุร่วมกัน ตัวอย่างเช่น ฮอร์โมน แล้วก็ความตึงเครียด โดยเหตุนี้ก็เลยถึงเวลาแล้วที่หมอแล้วก็สังคมควรต้องเลิกความประพฤติเหยียดหยามรูปร่างของคนอ้วน